Wednesday, April 1, 2009

Hydroponics บริการติตตั้งและแนะนำระบบไฮโดรโพนิกส์ ...


Hydroponics กรมวิชาการเกษตร


ผัก ไฮโดรโปรนิกส์ คือ การปลูกผักโดยไม่ใช้ดิน
การปลูกผักที่เลียนแบบการปลูกบนดิน โดยการปลูกพืชลงบนวัสดุปลูกหรือไม่ต้องมีวัสดุปลูกก็ได้ เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารหรือสารละลายธาตุอาหารพืช ที่มีน้ำที่ผสมกับปุ๋ยที่มีธาตุอาหารที่พืชต้องการทางรากพืช อันเป็นการปลูกพืชที่เกี่ยวข้องกับการจัดการใน การผลิตพืชในสภาพควบคุมสิ่งแวดล้อม (Controlled Environment Agricultural) ที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืช (Growth and Development) และสิ่งแวดล้อม (Environment)

Hydroponics มาจาก

การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน มาจากรากคำภาษาอังกฤษว่า Soilless Culture ซึ่งหมายถึง การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินมาเป็นพื้นที่ปลูก ซึ่งหลายท่านอาจแปลกใจเมื่อได้ยินคำนี้ และหลายท่านเริ่มมีความคิดแย้งว่าไปทำให้ยุ่งยากทำไมในเมื่อประเทศไทยเรายังมีพื้นที่รกร้างอีกมากมาย แต่ถ้ามองอีกด้านหนึ่งในแบบนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ที่ดินในปัจจุบันของเราที่ใช้ในการเกษตรน่าจะฟื้นฟูให้เป็นพื้นที่ป่า เพราะตอนนี้ป่าไม้มีไม่ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ของพื้นที่ทั้งหมดของประเทศไทยแล้ว จึงมีผลให้ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ในปัจจุบันการหันมาที่การปลูกพืชที่รบกวนพื้นที่ดินให้น้อยที่สุดเป็นสิ่งที่ควรที่จะมาสนใจเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งการปลูกพืชไม่ใช้ดินเป็นความหมายที่กว้างโดยรู้จักกันมากคือ การปลูกพืชในสารละลายที่ตรงกับภาษาอังกฤษที่เรียกว่า Hydroponics โดยมีรากศัพท์จากภาษากรีก 2 คำ คือ Hydro (water) แปลว่า น้ำ Ponous (working) แปลว่า ทำงาน จึงเรียกร่วมว่า Hydroponics ในปัจจุบัน ซึ่งหมายถึง การทำงานเกี่ยวกับน้ำนอกจากนี้ การปลูกไม่ใช้ดินอาจปลูกโดยให้รากลอยในอากาศ (Aeroponics) พืชปลูกในวัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น เช่น แกลบ ทราย เปลือกไม้ ขุยมะพร้าว หรือแม้แต่วัสดุที่เหลือใช้ เช่น โฟมหรือกระดาษที่ไม่มีสารพิษตกค้างกับพืชที่จะส่งผลต่อผู้บริโภคต่อไปก็มาใช้ปลูกได้
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการขาดแคลนพื้นที่ทางการเกษตรและพื้นดินที่ขาดความอุดมสมบูรณ์ จึงควรมีแนวทางวิธีการเพาะปลูกพืชแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะวิธีการปลูกแบบไม่ใช้ดินมาเป็นทางเลือกหนึ่งของเรา เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพืชผักให้มีเพียงพอ และมีคุณภาพสูงมาบริโภคเอง หรือดำเนินการผลิตในเชิงธุรกิจต่อไป

ข้อเด่น และข้อด้อย

ข้อเด่นและข้อด้อย ในการปลูกพืชแบบไม่ใช้ดิน

ข้อเด่น

1. สามารถปลูกพืชได้ทุกที่ที่มีสิ่งแวดล้อมไม่เหมาะสม
เช่น ตามระเบียงอาคารและพื้นที่ที่ไม่สามารถปลูก
พืชทางดินได้ เช่น ดินเค็ม
2. ประหยัดพื้นที่ปลูกโดยกำหนดระยะปลูกในระยะชิด
ได้ตามที่เราออกแบบไว้
3. สามารถดูแลได้ทั่วถึงเรื่องจากมีการสร้างระบบที่ง่าย
ต่อการควบคุมและสามารถป้องกันโรคและแมลง
หรือศัตรูพืชอื่น ๆ ได้
4. ไม่มีปัญหาในการกำจัดวัชพืชในพื้นที่ปลูก
5. ไม่ต้องเตรียมพื้นที่ปลูกโดยไถพรวน สามารถลด
การทำลายหรือการชะล้างหน้าดิน
6. ประหยัดน้ำ และปุ๋ย เพราะสามารถควบคุมได้ตามที่
ต้นพืชต้องการ
7. มีผลผลิตสม่ำเสมอและอายุเก็บเกี่ยวเร็วขึ้นเนื่องจาก
พืชสามารถนำธาตุอาหารไปใช้อย่างสม่ำเสมอ
8. ผลผลิตมีความสะอาด สด คุณภาพดี
9. เด็ก ผู้หญิง คนชรา คนพิการ สามารถทำได้
10. สามารถนำไปปลูกบนเรือนเดินสมุทรหรือ
บนดาวเทียมได้

ข้อด้อย

1. ในทางปฏิบัติอาจทำได้ไม่กว้างขวางเนื่องจาก
ปัจจุบันยังอาศัยเทคโนโลยีจากต่างประเทศ
2. ผู้ปลูกต้องมีความรู้อย่างแท้จริงต่อพืชที่ปลูกและ
เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างธาตุอาหาร น้ำ ต้นพืช
3. ความหลากหลายของพืชที่ปลูกแบบไม่ใช้ดินยังมี
น้อยในบ้านเรา
4. ปัญหาพื้นที่ที่มีพายุต้องมีการสร้างโรงเรือน
ป้องกันลม กรณีถ้ามีลมพัดแรงมากจำเป็นต้องมี
การค้ำยัน เนื่องจากการยึดต้นของรากไม่แข็งแรง
เช่นเดียวกับการปลูกลงดิน
5. เงินลงทุนครั้งแรกค่อนข้างสูง
6. ปัญหาในด้านการตลาดยังไม่กว้าง เนื่องจากเป็น
การปลูกผักต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่และใน
ปัจจุบันกลุ่มผู้บริโภคยังจำกัดอาจทำให้เกิดปัญหา
ด้านการตลาดที่ทำให้ราคาลดลงเรื่อย ๆ

คุณค่าประโยชน์จากการปลูกผักโดยไม่ใช้ดิน

บทบาทแร่ธาตุอาหารในพืชที่มีต่อร่างกายของผู้บริโภค
ในร่างกายของเรามีความจำเป็นต้องการธาตุอาหารเช่นเดียวกับพืช ซึ่งเราเรียกว่า เกลือแร่
หรือแร่ธาตุ ที่เราได้รับทุกวันคือ ออกซิเจน ซึ่งได้รับจากการดื่มน้ำและหายใจทุกวัน ธาตุ 2 ตัวนี้ จะ
เกี่ยวกับกระบวนการเผาผลาญไขมัน แป้ง โปรตีน และสารอาหารที่เรากินเข้าไป ส่วนธาตุตัวอื่น เช่นคาร์บอน ไนโตรเจน แคลเซียม แมงกานีส โคบอลต์ สังกะสี คลอรีน ไอโอดีน โซเดียม โมลิบดินัม นิเกิล
ซิลิเนียม ซิลิคอน วาเนเนียม อาสินิก โครเมียม ฟลูออไรด์ และเหล็กก็ได้ จากที่เราบริโภคอาหารในแต่ละวัน การบริโภคผักที่ปลูกโดยไม่ใช้ดินจะได้รับปริมาณธาตุอาหารต่าง ๆ บางชนิด

ซึ่งเราได้ให้ธาตุเหล่านี้ แก่พืชในสารละลายในปริมาณเพียงพอที่พืชนำไปใช้ในการเจริญเติบโต และเมื่อเราบริโภคพืชปริมาณธาตุอาหารก็จะถูกสะสมมาไว้ในร่างกายของคน ตัวอย่างเช่น ในผู้ชายที่มีน้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม จะมีปริมาณธาตุอาหารสะสมแต่ละตัว
ส่วนปริมาณธาตุไนโตรเจนไม่แสดงไว้ในตารางเนื่องจากร่างกายเรานำไปสะสมอยู่ในรูปกรดอะมิโน หรือโปรตีนซึ่งจะขออธิบายบทบาทธาตุแต่ละตัวที่มีต่อประโยชน์ของร่างกายของเรา ดังนี้

ธาตุคาร์บอน (C) มีบทบาทในการสร้างพลังงานให้กับร่างกาย
ธาตุไนโตรเจน (N) เป็นองค์ประกอบหลักของโครงสร้างโปรตีนในร่างกาย
ธาตุฟอสฟอรัส (P) มีบทบาทต่อการเคลื่อนไหวของร่างกายให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพโดยทั่วไป
จะเข้าใจว่าธาตุฟอสฟอรัส มีบทบาทต่อการซ่อมบำรุงสมองจึงมีการบริโภคทาง
อาหารเสริมซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อร่างกาย โดยปกติร่างกายต้องการ
เพียงร้อยละ 1 ของน้ำหนักตัวเท่านั้น
ธาตุโพแทสเซียม (K) มีบทบาทในการรักษาประสิทธิภาพการทำงานของกล้ามเนื้อให้ทำงานปกติ
หากขาดจะทำให้ระบบเส้นประสาทสั่งงานผิดปกติได้
ธาตุแคลเซียม (Ca) มีบทบาทในด้านโครงสร้างกระดูกและฟัน และบางส่วนในโลหิต
ธาตุกำมะถัน (S) หากขาดทำให้การเจริญเติบโตของร่างกายช้าลง
ธาตุเหล็ก (Fe) มีบทบาทสำคัญต่อเม็ดโลหิตแดง ซึ่งมีหน้าที่นำออกซิเจนไปให้เม็ดเลือดทำให้
เซลล์มีการหายใจสะดวก หากมีไม่เพียงพอทำให้เป็นโรคโลหิตจาง
ธาตุทองแดง (Cu) มีบทบาทในการช่วยระบบการหายใจ เป็นตัวกระตุ้นให้เม็ดโลหิตแดง
เจริญเติบโต
หากขาดธาตุทองแดงอาจเป็นสาเหตุโรคโลหิตจางเช่นเดียวกับขาดธาตุเหล็ก
ธาตุแมกนีเซียม (Mg) มีบทบาทในการทำให้เส้นประสาทมีความมั่งคง และช่วยในระบบย่อยอาหาร
ธาตุแมงกานีส (Mn) มีบทบาทที่ทำให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ตามปกติ
ธาตุโคบอลต์ (Co) มีบทบาทช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานเป็นปกติ หากขาดทำให้ผิวหนัง
เกิดเป็นเกล็ดกล้ามเนื้อหย่อนยาน
ธาตุสังกะสี (Zn) มีบทบาททำให้ร่างกายมีการเจริญได้ตามปกติ เส้นผมมีสุขภาพดี ในกรณีร่างกายได้รับไม่เพียงพอ ทำให้ลำใส้ดูดซับธาตุอาหารได้ไม่ดี
ธาตุคลอรีน (Cl) มีบทบาทในการควบคุมโลหิต ช่วยในระบบการย่อย ทำให้ระบบหัวใจ
ทำงานเป็นปกติ
ธาตุไอโอดีน (I) มีบทบาทต่อการทำงานของต่อมไธรอยด์ หากขาดทำให้เป็นโรคคอพอก

Hydroponics ประโยชน์ทางโภชนาการ

พืชผักเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าและปลอดภัยมีสรรพคุณทางยา เป็นแหล่งของวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นแหล่งอาหารที่มีไขมันต่ำมีน้ำ และกากเส้นใยอาหารจำนวนมาก ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีลดการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปลายลำไส้ใหญ่ขับถ่ายกากใยพร้อมสารพิษออกมาเป็นแหล่งสารอาหารที่ทำให้ร่างกายสมบูรณ์ โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินดี สารประกอบที่มีประโยชน์อื่น ๆ พืชแต่ละชนิด

คุณประโยชน์สรรพคุณทางยา
พืชผักที่ปลูกโดยไม่ใช้ดินมีประโยชน์ทางยาหรือบำรุงร่างกายหลายอย่างดังนี้

RED OAK : บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อบำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง

GREEN OAK : บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อบำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง ป้องกันโรคหวัด

BUTTER HEAD : บำรุงสายตา
บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ
บำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคปากนกกระจอก
ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร
ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง
ลดคอเรสเตอรอล

ICE BURG : บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม
บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ บำรุงผิวพรรณ
ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจาก
ยาฆ่าแมลง ป้องกันโรคหวัด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

COS : บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม
บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ บำรุงผิวพรรณ
ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงป้องกันโรคโลหิตจาง
ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง

ผักกาดขาวไดโตเกียว (Brassica chinensis var.Pekinensis Rupr.)
มีกรดโฟลิก ช่วยการพัฒนาเนื้อเยื่อ และสังเคราะห์ DNA ดีกับหญิงมีครรภ์ นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมสูง สร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง สามารถรับประทานสด ใส่ต้มจืด ผัดน้ำมันหอย หรือใส่สุกี้

ผักบุ้งจีน (Water Convolvulus)
มีแคลเซียมบำรุงเลือด ฟอสฟอรัสช่วยบำรุงกระดูก
และฟัน ธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด มีเยื่อใยช่วยในการขับถ่าย
มีฤทธิ์เย็นแก้ร้อนใน รับประทานสดกับลาบ ส้มตำ จิ้มน้ำพริก หรือผัดกับกระเทียม และเครื่องปรุงอื่นๆ

กวางตุ้งโชว์จีน E (Flowering cabbage) C (Choy Sam)
มีกรดโฟลิก ช่วยการพัฒนาเนื้อเยื่อ และสังเคราะห์ DNA ดีกับหญิงมีครรภ์ นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมสูง สร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง รับประทานเป็นแกงจืด ผัดน้ำมันหอย ใส่สุกี้ หรือต้มจับฉ่าย

คะน้า (CHINESE KALE)
คะน้ามีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เมื่อร่างกายเปลี่ยนเบต้าแคโรทีน เราเป็นวิตามินเอจะช่วยบำรุงสายตา ใบคะน้ามีแคลเซียมสูง ร่างกายสามารถดูดซึมได้ไม่น้อยไปกว่าแคลเซียมจากนม คะน้าวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด
เช่น วิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัส เป็นต้น ป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคกระดูกบาง

ปวยเล้ง (SPINACH) ปวยเล้งเป็นผักสุขภาพชั้นแนวหน้าอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยบำรุงสายตา และทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง มีแคลเซียมที่บำรุงกระดูกสูง และมีฟอสฟอรัสช่วยปรับระดับเลือดในร่างกายให้ไหลเวียนดี

ผักกาดแก้ว (ICEBERG LETTUCE)
ในผักกาดแก้วมีฮีโมโกลบิน (Haemoglobin) ป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันและต้านมะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก มีฤทธิ์เป็นยานอนหลับอ่อนๆ เป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

ผักกาดหอม (LETTUCE) ผักกาดหอมอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา และยัง
มีวิตามินซีบำรุงกระดูกและฟันอีกด้วย
ผักโขม (AMARANTH) ผักโขมอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญคือ มีสารเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ในเมล็ดของผักโขม เป็นแหล่งรวมของโปรตีน แคลเซียม เหล็ก และวิตามินซี

Hydroponics ประโยชน์ทางโภชนาการ

พืชผักเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าและปลอดภัยมีสรรพคุณทางยา เป็นแหล่งของวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย เป็นแหล่งอาหารที่มีไขมันต่ำมีน้ำ และกากเส้นใยอาหารจำนวนมาก ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีลดการเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งปลายลำไส้ใหญ่ขับถ่ายกากใยพร้อมสารพิษออกมาเป็นแหล่งสารอาหารที่ทำให้ร่างกายสมบูรณ์ โดยเฉพาะเบต้าแคโรทีน วิตามินซี วิตามินดี สารประกอบที่มีประโยชน์อื่น ๆ พืชแต่ละชนิด

คุณประโยชน์สรรพคุณทางยา
พืชผักที่ปลูกโดยไม่ใช้ดินมีประโยชน์ทางยาหรือบำรุงร่างกายหลายอย่างดังนี้

RED OAK : บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อบำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง

GREEN OAK : บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อบำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง ป้องกันโรคหวัด

BUTTER HEAD : บำรุงสายตา
บำรุงเส้นผม บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ
บำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคปากนกกระจอก
ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร
ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลง
ลดคอเรสเตอรอล

ICE BURG : บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม
บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ บำรุงผิวพรรณ
ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด
ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจาก
ยาฆ่าแมลง ป้องกันโรคหวัด เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

COS : บำรุงสายตา บำรุงเส้นผม
บำรุงประสาทและกล้ามเนื้อ บำรุงผิวพรรณ
ป้องกันโรคปากนกกระจอก ช่วยในการสร้างเม็ดเลือด ให้เส้นใยอาหาร ขจัดอนุมูลอิสระ ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงป้องกันโรคโลหิตจาง
ช่วยให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง

ผักกาดขาวไดโตเกียว (Brassica chinensis var.Pekinensis Rupr.)
มีกรดโฟลิก ช่วยการพัฒนาเนื้อเยื่อ และสังเคราะห์ DNA ดีกับหญิงมีครรภ์ นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมสูง สร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง สามารถรับประทานสด ใส่ต้มจืด ผัดน้ำมันหอย หรือใส่สุกี้

ผักบุ้งจีน (Water Convolvulus)
มีแคลเซียมบำรุงเลือด ฟอสฟอรัสช่วยบำรุงกระดูก
และฟัน ธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด มีเยื่อใยช่วยในการขับถ่าย
มีฤทธิ์เย็นแก้ร้อนใน รับประทานสดกับลาบ ส้มตำ จิ้มน้ำพริก หรือผัดกับกระเทียม และเครื่องปรุงอื่นๆ

กวางตุ้งโชว์จีน E (Flowering cabbage) C (Choy Sam)
มีกรดโฟลิก ช่วยการพัฒนาเนื้อเยื่อ และสังเคราะห์ DNA ดีกับหญิงมีครรภ์ นอกจากนี้ยังมีแคลเซียมสูง สร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง รับประทานเป็นแกงจืด ผัดน้ำมันหอย ใส่สุกี้ หรือต้มจับฉ่าย

คะน้า (CHINESE KALE)
คะน้ามีเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง เมื่อร่างกายเปลี่ยนเบต้าแคโรทีน เราเป็นวิตามินเอจะช่วยบำรุงสายตา ใบคะน้ามีแคลเซียมสูง ร่างกายสามารถดูดซึมได้ไม่น้อยไปกว่าแคลเซียมจากนม คะน้าวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด
เช่น วิตามินซี แคลเซียม และฟอสฟอรัส เป็นต้น ป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบและโรคกระดูกบาง

ปวยเล้ง (SPINACH) ปวยเล้งเป็นผักสุขภาพชั้นแนวหน้าอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ที่ช่วยบำรุงสายตา และทำให้ผิวพรรณผุดผ่อง มีแคลเซียมที่บำรุงกระดูกสูง และมีฟอสฟอรัสช่วยปรับระดับเลือดในร่างกายให้ไหลเวียนดี

ผักกาดแก้ว (ICEBERG LETTUCE)
ในผักกาดแก้วมีฮีโมโกลบิน (Haemoglobin) ป้องกันโรคโลหิตจาง ป้องกันและต้านมะเร็ง ช่วยบรรเทาอาการท้องผูก มีฤทธิ์เป็นยานอนหลับอ่อนๆ เป็นผักที่เหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน

ผักกาดหอม (LETTUCE) ผักกาดหอมอุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ร่างกายจะเปลี่ยนเป็นวิตามินเอช่วยบำรุงสายตา และยัง
มีวิตามินซีบำรุงกระดูกและฟันอีกด้วย

ผักโขม (AMARANTH) ผักโขมอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญคือ มีสารเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูง ช่วยบำรุงสายตาและป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง ในเมล็ดของผักโขม เป็นแหล่งรวมของโปรตีน แคลเซียม เหล็ก และวิตามินซี